สายมู

เคยสงสัยไหมว่าทำไมบางคนถึงประสบความสำเร็จในชีวิตได้ง่ายดายจัง ในขณะที่บางคนพยายามแค่ไหนก็ไม่สำเร็จสักที? คำตอบอาจอยู่ในสิ่งที่เรียกว่า “กฎแห่งจักรวาล” นั่นเอง! แต่กฎแห่งจักรวาลคืออะไร? ทำไมมันถึงสำคัญ? และเราจะใช้มันให้เป็นประโยชน์กับชีวิตได้ยังไง? วันนี้เราจะมาไขความลับนี้กัน รับรองว่าอ่านจบแล้ว ชีวิตคุณอาจจะเปลี่ยนไปตลอดกาลเลยก็ได้! กฎแห่งจักรวาลคืออะไร? กฎแห่งจักรวาล ฟังดูเท่ดี แต่จริงๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่? ง่ายๆ เลย มันคือกฎเกณฑ์ที่ควบคุมการทำงานของจักรวาล ไม่ต่างจากกฎจราจรที่ควบคุมการขับรถบนท้องถนนนั่นแหละ แต่แทนที่จะบอกว่าเลี้ยวซ้ายตรงไหน หรือจอดตรงไหนได้บ้าง กฎแห่งจักรวาลจะบอกว่าพลังงานในจักรวาลทำงานยังไง และเราจะใช้มันให้เป็นประโยชน์กับชีวิตได้ยังไง นักปราชญ์และนักคิดหลายคนเชื่อว่า ถ้าเราเข้าใจและทำตามกฎเหล่านี้ ชีวิตเราจะดีขึ้นแบบฉับพลัน! เจ๋งไหมล่ะ? กฎแห่งการดึงดูด พลังแห่งความคิดบวก กฎข้อแรกที่ต้องรู้ คือกฎแห่งการดึงดูด ข้อนี้บอกว่า “คุณดึงดูดสิ่งที่คุณคิดถึง” ฟังดูง่ายใช่ไหม? แต่พลังของมันมหาศาลเลยนะ ลองคิดดู ถ้าคุณคิดแต่เรื่องลบ ชีวิตก็จะเจอแต่เรื่องแย่ๆ แต่ถ้าคุณคิดบวก โฟกัสที่สิ่งดีๆ ชีวิตก็จะเจอแต่โชคดี โอกาสดีๆ วิธีใช้ก็ง่ายมาก แค่เริ่มสังเกตความคิดตัวเอง แล้วพยายามคิดบวกให้มากขึ้น เช่น แทนที่จะบ่นว่า “ทำไมชีวิตฉันซวยจัง” ลองเปลี่ยนเป็น “วันนี้ต้องมีอะไรดีๆ เกิดขึ้นแน่ๆ” ดูสิ กฎแห่งการกระทำ ลงมือทำซะ! […]

เคยรู้สึกไหมว่าชีวิตนี้มันขาดอะไรสักอย่าง? ทำงานไปวันๆ แต่ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร? หรือแม้แต่ตื่นเช้ามาก็ไม่อยากลุกจากเตียง? ถ้าใช่ล่ะก็ คำตอบของคุณอาจจะอยู่ในคำว่า “อิคิไก” นี่แหละ! แต่อิคิไกคืออะไร? ทำไมมันถึงสำคัญ? และเราจะค้นหาอิคิไกของตัวเองได้ยังไง? วันนี้เราจะมาไขความลับนี้กัน รับรองว่าอ่านจบแล้ว คุณจะมีแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิตแน่นอน! อิคิไกคืออะไร? อิคิไก (Ikigai) นี่เป็นคำที่มาจากภาษาญี่ปุ่น แปลตรงๆ ก็คือ “เหตุผลของการมีชีวิตอยู่” ฟังดูหนักหน่อยนะ แต่จริงๆ แล้วมันเป็นแนวคิดที่เจ๋งมาก! อิคิไกไม่ใช่แค่เรื่องงานหรือเงินนะ แต่มันเป็นจุดที่ทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตมีความหมาย มีเป้าหมาย และมีความสุขที่แท้จริง คนญี่ปุ่นเชื่อว่า ทุกคนมีอิคิไกของตัวเอง แต่บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร ซึ่งถ้าเราค้นพบอิคิไกของตัวเองได้ ชีวิตจะมีพลังและความสุขมากขึ้นแบบไม่น่าเชื่อเลยล่ะ! 4 วงกลมแห่งอิคิไก ทีนี้มาดูกันว่าอิคิไกประกอบด้วยอะไรบ้าง เขาบอกว่ามันเกิดจากจุดตัดของ 4 วงกลม ได้แก่ ถ้าคุณทำอะไรที่ครบทั้ง 4 อย่างนี้ นั่นแหละคืออิคิไกของคุณ! ฟังดูง่ายใช่ไหม? แต่จริงๆ แล้วการหามันอาจจะไม่ง่ายนักหรอกนะ ทำไมอิคิไกถึงสำคัญ? คำถามนี้ตอบง่ายมาก! ลองนึกภาพดูสิ ถ้าคุณทำงานที่คุณรัก เก่งด้วย โลกก็ต้องการ แถมยังได้เงินดีอีก

ยุคนี้ใครๆ ก็หันมาสนใจเรื่องพลังงานบวก โชคลาภ วาสนา แล้วรู้ไหมว่ามีของวิเศษที่ช่วยเสริมเรื่องพวกนี้ได้? นั่นก็คือ “หินมงคล” นั่นเอง! แต่หินมงคลมีกี่ประเภท? แต่ละอันช่วยอะไรได้บ้าง? แล้วเราจะเลือกใช้ยังไงให้เหมาะกับตัวเอง? วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ 7 หินมงคลสุดปังที่จะช่วยให้ชีวิตคุณรุ่งเรืองขึ้นแบบปุ๊บปั๊บ! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดูกันเลย! 1. อเมทิสต์ (Amethyst) หินแห่งสมาธิและปัญญา เริ่มกันที่หินสีม่วงสวยๆ อย่างอเมทิสต์กันก่อน หินนี้ไม่ใช่แค่สวยเฉยๆ นะ แต่มันมีพลังวิเศษด้วย! อเมทิสต์เชื่อกันว่าช่วยเรื่องสมาธิและปัญญา ใครที่ชอบวอกแวกง่าย หรือรู้สึกว่าตัวเองคิดอะไรไม่ออก ลองหามาติดตัวไว้สิ วิธีใช้ก็ง่ายมาก จะพกติดตัว ทำเป็นสร้อย หรือวางไว้บนโต๊ะทำงานก็ได้ บางคนบอกว่าพอมีอเมทิสต์ปุ๊บ สมองโล่งขึ้นเลย คิดอะไรออกง่ายขึ้น เรียนหนังสือก็เก่งขึ้น เจ๋งไหมล่ะ? 2. โรสควอตซ์ (Rose Quartz) หินแห่งความรักและความสัมพันธ์ ต่อกันที่หินสีชมพูหวานๆ อย่างโรสควอตซ์ หินนี้เขาว่ากันว่าเป็นหินแห่งความรักเลยนะ โรสควอตซ์เชื่อว่าช่วยเสริมพลังความรัก ไม่ว่าจะเป็นความรักแบบโรแมนติก ความรักในครอบครัว หรือแม้แต่ความรักตัวเอง ใครที่กำลังอกหัก หรือรู้สึกว่าชีวิตขาดความรัก ลองหาโรสควอตซ์มาไว้ใกล้ตัวดูสิ บางคนบอกว่าพอมีหินนี้แล้ว รู้สึกอบอุ่นขึ้นเลย

เคยรู้สึกไหมว่าชีวิตนี้มันขาดอะไรสักอย่าง? อยากมีของวิเศษมาช่วยให้ชีวิตดีขึ้น? ลืมพระเครื่องไปได้เลย เพราะวันนี้เรามีของเด็ดกว่านั้น! นั่นก็คือ “สัตว์ในตำนานที่เป็นมงคล” นั่นเอง! แต่จะมีสัตว์อะไรบ้าง? แต่ละตัวมีพลังวิเศษยังไง? แล้วเราจะเอามาใช้ในชีวิตจริงได้ยังไง? เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเราจะพาไปรู้จักกับ 7 สัตว์ในตำนานที่จะทำให้ชีวิตคุณเฟี้ยวฟ้าวแบบสุดๆ! 1. มังกร (Dragon) ราชาแห่งสัตว์มงคล เริ่มกันที่เจ้าพ่อแห่งสัตว์ในตำนานอย่างมังกรกันเลย! มังกรนี่ไม่ใช่แค่สัตว์ธรรมดาๆ นะ แต่เป็นสัญลักษณ์แห่งพลังอำนาจและความยิ่งใหญ่เลยล่ะ ในความเชื่อของจีน มังกรเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่นำโชคลาภและความเจริญรุ่งเรืองมาให้ ใครอยากประสบความสำเร็จ อยากมีอำนาจ ต้องลองเอามังกรมาเป็นแรงบันดาลใจ! จะเอามาใช้ยังไงดีล่ะ? ลองหารูปปั้นมังกรมาตั้งที่โต๊ะทำงานสิ หรือจะสักมังกรไว้บนแขนก็เท่ไปอีกแบบ (แต่ต้องขออนุญาตผู้ปกครองก่อนนะ!) รับรองว่าพอมีมังกรปุ๊บ ชีวิตจะพุ่งแบบไม่มีหยุด! 2. ฟีนิกซ์ (Phoenix) นกไฟแห่งการเกิดใหม่ ต่อกันที่นกไฟสุดเจ๋งอย่างฟีนิกซ์! เจ้านกตัวนี้ไม่ใช่แค่สวยเฉยๆ นะ แต่มันมีพลังวิเศษสุดๆ ฟีนิกซ์เป็นสัญลักษณ์ของการเกิดใหม่และการฟื้นคืนชีพ มันสามารถเผาตัวเองและเกิดใหม่จากเถ้าถ่านได้ เจ๋งไหมล่ะ? ใครที่กำลังรู้สึกท้อแท้ อยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ ต้องเอาฟีนิกซ์มาเป็นแรงบันดาลใจ! อยากลองใช้พลังของฟีนิกซ์? ลองหาเครื่องประดับรูปฟีนิกซ์มาใส่สิ หรือจะวาดรูปฟีนิกซ์แปะไว้ที่กระจกก็ได้ พอเห็นทุกเช้า จะรู้สึกมีพลังพร้อมสู้กับทุกสิ่งเลย! 3. ยูนิคอร์น (Unicorn)

พระเครื่องในไทยนี่ไม่ใช่แค่ของมงคลธรรมดาๆ นะ บางองค์นี่ราคาแพงยิ่งกว่ารถหรูซะอีก! แต่จะมีพระองค์ไหนบ้างที่ราคาพุ่งทะยานจนคนธรรมดาอย่างเราๆ ได้แต่อ้าปากค้าง วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ 5 พระเครื่องที่แพงที่สุดในไทย รับรองว่าพอรู้ราคาแล้วต้องตกใจแน่ๆ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดูกันเลย! 1. พระสมเด็จวัดระฆัง รุ่น “เกศไชโย” เริ่มกันที่พระองค์แรก พระสมเด็จวัดระฆัง รุ่น “เกศไชโย” พระองค์นี้ไม่ธรรมดาเลยนะ เป็นพระเนื้อผงที่หายากมากๆ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดระฆังโฆสิตาราม ที่เรียกว่า “เกศไชโย” เพราะมีเกศาของสมเด็จโตผสมอยู่ในเนื้อพระด้วย เจ๋งไหมล่ะ? แต่ราคานี่สิ บอกเลยว่าแพงสุดๆ องค์หนึ่งนี่เฉียด 10 ล้านบาทเลยนะ ถ้าอยากได้ต้องเตรียมกระเป๋าให้หนักหน่อยแล้ว! 2. พระกริ่งตักน้ำมนต์ รุ่นแรก มาต่อกันที่พระองค์ที่สอง พระกริ่งตักน้ำมนต์ รุ่นแรก พระองค์นี้ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2495 โดยกรมการศาสนา ที่พิเศษคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษกด้วยนะ แถมยังใช้น้ำมนต์จากวัดสำคัญทั่วประเทศมาหล่อด้วย ราคาของพระองค์นี้ก็ไม่ธรรมดาเลย องค์หนึ่งนี่ราคาเฉียด

ขับรถทั้งที ต้องปลอดภัยแถมรวยๆ ด้วยสิ! ใครว่าการขับรถดีๆ อย่างเดียวพอ? คนไทยเรายังมีเครื่องรางเด็ดๆ ที่เชื่อว่าจะช่วยให้การเดินทางราบรื่น ปลอดภัย แถมยังเสริมดวงอีกต่างหาก! วันนี้เรามารวม 7 เครื่องรางสุดปังสำหรับการขับรถ ที่ต้องมีติดรถไว้ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน! 1. พระพุทธชินราช เทพคุ้มครองแห่งการเดินทาง เริ่มกันที่องค์พระพุทธชินราช เครื่องรางสุดขลังที่คอรถห้ามพลาด! องค์นี้เขาว่ากันว่าศักดิ์สิทธิ์สุดๆ ช่วยคุ้มครองการเดินทางให้ปลอดภัย นิยมเอามาแขวนไว้ที่กระจกมองหลัง หรือจะพกติดตัวก็ได้ แต่ต้องเป็นองค์ที่ปลุกเสกมาดีๆ นะ ไม่ใช่เอามาแขวนเฉยๆ แล้วคิดว่าจะปลอดภัย ยังไงก็ต้องขับรถดีๆ มีสติด้วย! 2. กุมารทอง ผู้ช่วยจิ๋วมหาเฮง ต่อกันด้วยกุมารทอง เครื่องรางสุดฮอตที่เหล่าคอรถต้องมี! กุมารทองนี่เขาว่ากันว่าช่วยปกปักรักษารถ ป้องกันอุบัติเหตุ แถมยังช่วยเรื่องโชคลาภด้วยนะ นิยมวางไว้หน้ารถ แต่อย่าวางให้บังสายตานะ เดี๋ยวจะเกิดอุบัติเหตุจริงๆ ขึ้นมา! แล้วก็อย่าลืมบอกกล่าวกุมารทองบ้าง เขาจะได้ช่วยเราเต็มที่ 3. นางกวัก เรียกทรัพย์เข้ารถ มาถึงนางกวัก เครื่องรางที่ช่วยเรียกทรัพย์เข้ารถ! ใครที่อยากให้ธุรกิจเกี่ยวกับรถรุ่งเรือง หรืออยากมีโชคลาภระหว่างเดินทาง ต้องมีนางกวักติดรถไว้ นิยมวางไว้หน้ารถ หันหน้าเข้าหาคนขับ เพื่อกวักเรียกโชคลาภเข้ามา

เดือนตุลาคม 2024 กำลังจะมาถึงแล้ว หลายคนคงตั้งตารอว่าจะมีอะไรใหม่ ๆ เกิดขึ้นบ้าง ทั้งเรื่องงาน เงิน ความรัก สุขภาพ มาดูกันดีกว่าว่าแต่ละราศีจะเป็นยังไงบ้าง ราศีเมษ (13 เมษายน – 13 พฤษภาคม) ชาวราศีเมษ เดือนนี้ดาวอังคารเข้ามาเยือน ทำให้พลังงานเต็มเปี่ยม พร้อมลุยทุกงาน แต่ระวังนะ อย่าหักโหมจนเกินไป เดี๋ยวจะเหนื่อยเปล่า ๆ ราศีพฤษภ (14 พฤษภาคม – 13 มิถุนายน) ชาวราศีพฤษภ เดือนนี้ดาวศุกร์โคจรเข้ามา ทำให้มีเสน่ห์เป็นพิเศษ ใครเห็นใครก็รัก แต่ก็อย่าลืมรักตัวเองด้วยนะ ราศีเมถุน (14 มิถุนายน – 14 กรกฎาคม) ชาวราศีเมถุน เดือนนี้ดาวพุธเข้ามาเยือน ทำให้มีความคิดสร้างสรรค์เต็มที่ แต่ก็ต้องระวังความคิดฟุ้งซ่านนะ ราศีกรกฎ (15 กรกฎาคม – 16 สิงหาคม) ชาวราศีกรกฎ เดือนนี้ดวงจันทร์เข้ามาเยือน ทำให้อารมณ์อ่อนไหวง่าย

ปี 2025 กำลังจะมาถึง! ใครๆ ก็อยากรู้ว่าชะตาชีวิตจะเป็นยังไง จะรุ่งหรือจะร่วง งานจะปังหรือจะพัง ความรักจะฟินหรือจะฟีลแย่ เงินทองจะไหลมาเทมาหรือจะรั่วไหลออกไป ถ้าอยากรู้ล่วงหน้าว่าดวงชะตาจะเป็นยังไง มาเช็กกันเลย! บทความนี้จะพาทุกคนไปสำรวจดวงชะตาประจำปี 2025 แบบละเอียดยิบ ตามวันเกิดของแต่ละคน รับรองว่าอ่านจบแล้วต้องทึ่ง เพราะแม่นยำเวอร์! วันอาทิตย์ ดวงมาแรงแซงทุกราศี คนเกิดวันอาทิตย์ปีหน้าเตรียมตัวให้พร้อม เพราะดวงมาแบบไม่มีใครหยุดยั้ง! งานการจะก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด โปรเจกต์ใหม่ๆ จะเข้ามาเพียบ ใครที่กำลังมองหาโอกาสเปลี่ยนงาน ปีนี้แหละ ฤกษ์งามยามดีมาถึงแล้ว อย่ารอช้า รีบคว้าเลย! ด้านความรัก คนโสดจะเจอคนถูกใจแบบไม่ทันตั้งตัว อาจจะเป็นเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนาน หรือคนแปลกหน้าที่เดินสวนกันในร้านกาแฟ ส่วนคนมีคู่ ความหวานจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว แพลนไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ นะ รับรองว่าจะได้ความสุขกลับมาแบบคุ้มค่า เรื่องเงินๆ ทองๆ ปีนี้จะมีโชคลาภก้อนโต อาจจะมาจากการลงทุน หรือได้รับมรดกแบบไม่คาดฝัน แต่อย่าเพิ่งดีใจมาก ให้เก็บออมไว้บ้าง เผื่อมีเหตุฉุกเฉิน สุขภาพโดยรวมแข็งแรงดี แต่ระวังเรื่องอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ โดยเฉพาะช่วงกลางปี ขับรถระมัดระวังหน่อย อย่าประมาท วันจันทร์ ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ คนเกิดวันจันทร์

โหงวเฮ้ง หรือที่เรียกในภาษาจีนว่า “เหมียนเซี่ยง” เป็นศาสตร์การอ่านลักษณะใบหน้าเพื่อทำนายชะตาชีวิต นิสัยใจคอ และโชคชะตาของคน ศาสตร์นี้มีมาตั้งแต่สมัยโบราณของจีน และยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน แล้วทำไมต้องสนใจโหงวเฮ้งด้วยล่ะ? ลองคิดดู ถ้าคุณสามารถรู้นิสัยของคนแค่มองหน้า คุณจะไม่พลาดโอกาสดีๆ ในชีวิตเลย! ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเพื่อน หาคู่ หรือแม้แต่การทำธุรกิจ การรู้โหงวเฮ้งจะช่วยให้คุณเข้าใจคนอื่นได้ดีขึ้น และตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น หลักการพื้นฐานของโหงวเฮ้ง ก่อนจะไปดูว่าแต่ละส่วนของใบหน้าบ่งบอกอะไร มาทำความรู้จักหลักการพื้นฐานของโหงวเฮ้งกันก่อน เอาล่ะ ทีนี้เรามาดูกันว่าแต่ละส่วนของใบหน้าบ่งบอกอะไรบ้าง! อ่านใบหน้าแบบโหงวเฮ้ง ทำนายชีวิตได้จริงหรอ? มาถึงส่วนสนุกแล้ว! เรามาดูกันว่าแต่ละส่วนของใบหน้าบ่งบอกอะไรบ้าง หน้าผาก บ่งบอกสติปัญญาและโชคลาภ หน้าผากกว้างและโค้งมน บ่งบอกถึงสติปัญญาดี มีไหวพริบ และมีโชคลาภ ยิ่งหน้าผากกว้างและสูงเท่าไหร่ ยิ่งดี! แต่ถ้าหน้าผากแคบหรือเว้าเข้าไป อาจหมายถึงการตัดสินใจที่ไม่ค่อยดีนัก คิ้ว บ่งบอกบุคลิกภาพและความก้าวหน้าในอาชีพ คิ้วโค้งสวยเป็นระเบียบ บ่งบอกถึงความมีเสน่ห์และความก้าวหน้าในอาชีพ คิ้วหนาแสดงถึงความมั่นใจและพลังงานสูง ส่วนคิ้วบางอาจหมายถึงคนอ่อนไหวง่าย ตา บ่งบอกอารมณ์และจิตใจ ตากลมโตสดใส บ่งบอกถึงจิตใจที่เบิกบานและมีเสน่ห์ ตาที่มีหางตายาวแสดงถึงความฉลาดและมีไหวพริบ ส่วนตาที่เล็กหรือหรี่ อาจหมายถึงคนช่างสังเกตและระมัดระวัง จมูก บ่งบอกความมั่งคั่งและอำนาจ จมูกโด่งเป็นสัน บ่งบอกถึงความมั่งคั่งและอำนาจ ปลายจมูกเชิดขึ้นเล็กน้อยแสดงถึงโชคลาภทางการเงิน

การดูลายมือ หรือที่เรียกว่า “ไคโรมานซี” (Chiromancy) เป็นศาสตร์การทำนายชะตาชีวิต นิสัยใจคอ และอนาคตของคนจากลักษณะของมือและเส้นลายมือ ศาสตร์นี้มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ และยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน แล้วทำไมต้องสนใจการดูลายมือด้วยล่ะ? ลองคิดดู ถ้าคุณสามารถรู้จุดแข็งจุดอ่อนของตัวเองแค่ดูฝ่ามือ คุณจะไม่พลาดโอกาสดีๆ ในชีวิตเลย! ไม่ว่าจะเป็นการเลือกอาชีพที่เหมาะกับตัวเอง การรู้จักนิสัยคู่ครองในอนาคต หรือแม้แต่การระวังปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น การรู้จักดูลายมือจะช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้างได้ดีขึ้น หลักการพื้นฐานของการดูลายมือ ก่อนจะไปดูว่าแต่ละส่วนของมือบ่งบอกอะไร มาทำความรู้จักหลักการพื้นฐานของการดูลายมือกันก่อน เอาล่ะ ทีนี้เรามาดูกันว่าแต่ละส่วนของมือบ่งบอกอะไรบ้าง! อ่านลายมือแบบเซียน ทำนายชีวิตได้จริงหรอ? มาถึงส่วนสนุกแล้ว! เรามาดูกันว่าแต่ละส่วนของมือบ่งบอกอะไรบ้าง เส้นชีวิต บอกเรื่องสุขภาพและพลังชีวิต เส้นชีวิตเป็นเส้นโค้งที่อยู่รอบๆ นิ้วหัวแม่มือ เส้นชีวิตที่ยาวและชัดเจนบ่งบอกถึงสุขภาพที่แข็งแรงและอายุยืน ถ้าเส้นขาดหรือมีรอยแยก อาจหมายถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตหรือปัญหาสุขภาพ เส้นหัว บอกเรื่องความคิดและสติปัญญา เส้นหัวเป็นเส้นแนวนอนที่อยู่กลางฝ่ามือ เส้นหัวที่ยาวและชัดเจนบ่งบอกถึงความฉลาดและความคิดสร้างสรรค์ ถ้าเส้นแยกเป็นสองแฉก อาจหมายถึงคนที่มีความสามารถในการคิดหลายแง่มุม เส้นหัวใจ บอกเรื่องความรักและอารมณ์ เส้นหัวใจเป็นเส้นแนวนอนที่อยู่บนสุดของฝ่ามือ เส้นหัวใจที่ยาวและชัดเจนบ่งบอกถึงความมั่นคงทางอารมณ์และความสามารถในการแสดงความรู้สึก ถ้าเส้นขาดหรือมีรอยแยก อาจหมายถึงความผิดหวังในความรัก เส้นโชคชะตา บอกเรื่องความสำเร็จและอาชีพ เส้นโชคชะตาเป็นเส้นแนวตั้งที่อยู่กลางฝ่ามือ เส้นโชคชะตาที่ชัดเจนและยาวถึงนิ้วกลางบ่งบอกถึงความสำเร็จในอาชีพและชื่อเสียง ถ้าเส้นไม่ชัดเจนหรือขาดตอน อาจหมายถึงอุปสรรคในเส้นทางสู่ความสำเร็จ เนินดาวพุธ บอกเรื่องการสื่อสารและความฉลาด เนินดาวพุธอยู่ใต้นิ้วก้อย